Ads 468x60px

29/2/59

ความเป็นมาของศศช.


ความเป็นมาของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา”แม่ฟ้าหลวง”(ศศช.)

กิจกรรมการศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง  เมื่อปี 2523 กรมการศึกษานอกโรงเรียน ( กศน. ) ในขณะนั้น ได้จัดตั้งศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา( ศศช. ) ขึ้นโดยส่งครูอาสา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ครูดอย 1 - 2 คน เข้าไปฝังตัวพักอยู่กับประชาชนในชุมชนและมีการสร้างอาคารขนาดเล็กเรียกว่า อาศรม ด้วยวัสดุท้องถิ่น เพื่อให้บริการการศึกษาและพัฒนาชุมชนแก่ผู้ใหญ่ในเวลากลางคืนและสอนเด็ก ตั้งแต่อนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ 6 ในตอนกลางวัน มุ่งให้สามารถช่วยเหลือตนเองและเป็นพลเมืองดีของชาติ ซึ่งโครงการ  ศศช. นี้ ได้รับรางวัลจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2537 ในฐานะที่เป็นแนวคิดใหม่ในการจัดการศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นพื้นฐานซึ่งมีการขยายเปิดตามชุมชนทุรกันดารถึง 773 แห่งเมื่อ พ.ศ. 2535 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงอ่านหนังสือพิมพ์ และทรงพบจดหมายของครูอาสาสมัคร คนหนึ่ง ที่ ศศช.บ้านใหม่ห้วยหวาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บรรยายความยากลำบากในการเป็นครูดอยในถิ่นกันดาร และขอรับการสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน และสิ่งของ เครื่องใช้ในอาศรม ศศช.พระองค์ทรงมีความสนพระทัยที่จะพระราชทานความช่วยเหลือ จึงมอบหมายให้นายบุญธันว์  มหาวรรณ หัวหน้าคณะทำงานส่วนพระองค์ ไปสำรวจหาข้อมูล เพื่อให้ความช่วยเหลือ จึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 80,000.- บาท               ให้สร้างอาคารขึ้นใหม่ และต่อมาได้พระราชทานความช่วยเหลือ และทรงรับ ศศช. ทุกแห่งไว้ในพระอุปถัมภ์ในปี พ.ศ. 2539 กรม กศน. ได้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานชื่อของศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา ( ศศช. ) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานชื่อให้ใหม่ว่า ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นพระราชสมัญญานามของพระองค์ท่าน แม่ฟ้าหลวง หรือ สมเด็จย่า แต่ชื่อย่อยังใช้ติดของเก่าว่า ศศช. เหมือนเดิม
การจัดการศึกษาสำหรับชุมชนบนพื้นที่สูง หรือเดิมเรียกว่า ศูนย์การศึกษาเพื่อชุมชนในเขตภูเขา  ( ศศช. ) หรือจะพูดง่ายๆ และพูดจนติดปากว่า การศึกษาชาวเขา ไม่ว่าจะพูดในลักษณะใดงานที่ดำเนินการก็คือ การให้บริการด้านการศึกษาสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนบนพื้นที่สูง ซึ่งประกอบด้วยประชากรหลายเผ่าพันธุ์ หลากหลายเชื้อชาติ และชาติพันธุ์ วิธีการศึกษาทั้งในระบบนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ก็ไม่แตกต่างจากการจัดการศึกษาสำหรับชุมชนบนพื้นราบ แต่ถ้าพูดถึงกระบวนการการจัดการศึกษา ทั้งด้านหลักการ เป้าหมาย และกระบวนการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ก็ค่อนข้างจะแตกต่างกันบ้าง เพราะชุมชน บนพื้นที่สูงมีความแตกต่างกันหลายๆ ด้าน เช่น ความแตกต่างทางด้านภูมิประเทศ ความแตกต่าง ในวิถีชีวิตความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม  ความแตกต่างทางด้านความพร้อม ในการสื่อสารและการคมนาคม ดังนั้น เป้าหมาย ( goal ) ของการจัดการศึกษาสำหรับชุมชนบนพื้นที่สูง จึงเป็นไปตามหลักการและกระบวนการเรียนรู้ ที่ถูกกำหนดขึ้น


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น